“Video Door Phone” ป้องกันโจรกรรมล้ำยุค

“เปลี่ยนจากกริ่งหน้าบ้านธรรมดา พัฒนามาเป็นภาพที่ปรากฏในบ้านคุณ” ข้อความโฆษณานี้บ่งบอกถึงความก้าว หน้าของเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตในบ้านหรือที่อยู่อาศัยยุคใหม่

โดยเฉพาะกับอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยภายในบ้านอย่างเช่น วิดิโอ ดอร์ โฟน (Video Door Phone) หรืออุปกรณ์ ื่อสารสำหรับป้องกันโจรกรรมภายในบ้าน โรงแรม, สำนักงาน , อาคารสาธารณะอื่น ๆ ที่ถือว่าเป็นการป้องกันที่จำเป็นอย่างยิ่งในยุคภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างในปัจจุบัน

สำหรับ Video Door Phone ในประเทศไทยมีหลายค่ายและนำเข้าจากหลายประเทศ เพื่อรองรับตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่ามีจำนวนมากกว่า 2,000,000 ยูนิต โดยกลุ่มเป้าหมาย Video Door Phone ก็มีทั้งที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ ตลอดจนอาคารสำนักงานหรือออฟฟิศ

ส่วนแบรนด์นำเข้าที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ “คอมแม็ค” จากประเทศเกาหลี มีชื่อเสียงเก่าแก่ถึง 45 ปีนำเข้าโดยบริษัท ควินตัส อุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำสินค้าด้านอุปกรณ์การสื่อสารไฮเทคภายในบ้าน การันตีความไฮเทคด้วยยอดขายและการจัดจำหน่าย Video Door Phone ที่สูงที่สุดในเกาหลี

โดย Video Door Phone “ควินตัส คอมแม็ค” ที่นำเข้ามา แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ Video Door Phone ชนิดจอขาวดำหรือจอสี พร้อมระบบควบคุมการเข้าออก กลุ่มที่สอง คือ Video Door Phone พร้อมระบบป้องกันภัยต่างๆ เช่น แก๊สรั่ว ไฟไหม้ และกันขโมย และกลุ่มที่ 3 คือ Video Door Phone พร้อมระบบควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น ไฟฟ้า, เครื่องปรับอากาศ

ระบบ Video Door Phone “ควินตัส คอมแม็ค” นี้ สามารถติดกล้องหน้าประตูได้ถึง 4 ตัว สำหรับบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ และสามารถเชื่อมต่อกับมอนิเตอร์ภายในบ้านได้ 20 จุด ซึ่งภาพสามารถแขวนบนผนัง สามารถวางบนโต๊ะ, โต๊ะรับประทานอาหาร ฯลฯได้ เพื่อเป็นระบบควบคุมการเข้าออกและป้องกันภัยได้ในทุก ๆ จุด

เมื่อมีคนมาหาเจ้าของบ้านสามารถใช้มอนิเตอร์ตัวใดก็ได้ภายในบ้านสนทนา และพูดคุยติดต่อสื่อสารกับผู้มาติดต่อได้ และสามารถควบคุมการเปิดและปิดประตูได้เลย โดยไม่ต้องเดินไปเปิดเอง ขณะที่คนที่อยู่หน้าประตูจะไม่เห็นภาพเรา

เมื่อไม่อยู่บ้านระบบจะทำการบันทึกภาพคนมาหาอย่างอัตโนมัติ และระบบยังสามารถส่งสัญญาณเตือนภัย หรือเมื่อมีคนมาหาเวลาที่ไม่อยู่บ้านไปยังโทรศัพท์มือถือผ่านระบบ SMS ซึ่งถือเป็นรูปแบบที่สะดวกสบายไม่ยิ่งยาก

นอกจากนี้ระบบดังกล่าวยังสามารถนำไปเชื่อมโยงกับประตูบานเลื่อนได้เช่นกัน โดยนำไปประยุกต์ใช้ ในการเฝ้ามองบุคคลที่เข้ามาติดต่อ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมาเปิดประตูบานเลื่อน เพื่อรับประกันความปลอดภัยในการรับมือกับผู้ที่มาเยือน

ทั้งนี้คาดกันว่าผลิตภัณฑ์ Video Door Phone จะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นแนวโน้มของบ้านสมัยใหม่ที่นับวันจะต้องการความทันสมัยทั้งเทคโนโลยีในการก่อสร้าง ระบบป้องกันและรักษาความปลอดภัย ระบบควบคุมไฟฟ้าภายในบ้านที่ต้องการอุปกรณ์ประเภทโฮม ออโตเมชั่น (Home Automation) แบบครบวงจรเพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น เช่น ระบบควบคุมไฟแบบระบบสัมผัส สามารถเปิดปิดไฟในบ้านทั้งหลังด้วยปุ่ม ๆ เดียว

เช่นเดียวกับ “Video Door Phone “ ที่นับว่ามีระบบการป้องกันโจรกรรมที่ล้ำยุค แถมเฝ้าระวังภัยให้ผู้อาศัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเป็นเสมือนยามเฝ้าระวังภัยให้เรา แม้จะอยู่ในยุคเศรษฐกิจทรุดตัว ซึ่งจะส่งผลให้การโจรกรรมมากขึ้นเป็นเงาตามตัว