หน้าแรก
โปรโมชั่น
กล้องวงจรปิด
บทความ
ตัวอย่างผลงาน
ชำระเงิน
ติดต่อเรา
กล้องวงจรปิดนครปฐม
เลขที่ 200 ซอยบรมราชชนนี 70
ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์
เขตทวีวัฒนา กทม. 10170
โทร. 02-8883507-8 มือถือ 081-700-4715
แฟกซ์ 02-888-3199
E-mail : krittiwit@gmail.com
Line id: mediasearch

ติดต่อฝ่ายขาย
โทร.034-306-500

ติดต่อเรา

การเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ Projector

การเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ Projector

ผู้คนส่วนใหญ่มักจะถามกันอยู่เสมอว่า ระหว่างระบบ DLP กับ LCD ระบบใดดีกว่ากันเมื่อใช้งานกับ กล้องวงจรปิด ทั้งสองระบบนี้ต่างก็มีข้อดีที่สามารถข่มอีกฝ่ายหนึ่งและก็มีข้อด้อยที่ถูกโจมตีจากอีกฝ่ายด้วย เรื่องจริงก็คือไม่มีระบบใด ที่สมบูรณ์โดยไม่มีที่ติ ดังนั้นจึงต้องศึกษาถึงข้อดีและข้อเสียของทั้งสองระบบ แล้วจึงตัดสินใจว่าระบบใดดีที่สุด ซึ่งคำตอบของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับว่าบุคคลคนนั้น จะสามารถยอมรับข้อดีและข้อเสียของระบบใดได้มากกว่ากัน

CCTV LCD (Liquid Crystal Display)

LCD (Liquid Crystal Display)

โปรเจคเตอร์ระบบนี้ถูกบรรจุด้วยแผ่นกระจก lcd สามแผ่นซึ่งแต่ละแผ่นจะมีสี แดง เขียว น้ำเงิน ในขณะที่แสงผ่านแผ่น lcd แต่ละ pixel ของแผ่น lcd จะทำหน้าที่ในการอนุญาตให้แสงผ่านหรือปิดกั้น ไม่ให้แสงผ่าน pixel เล็กๆ เหล่านี้ก็เป็นเหมือนมู่ลี่นั่นเอง การทำงานลักษณะนี้ทำให้เกิดเป็นภาพขึ้นมา ซึ่งส่วนใหญ่เรานิยมใช้โปรเจคเตอร์ชนิด lcd นี้ในการแสดงภาพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพจากเครื่องบันทึก ภาพกล้องวงจรปิด จากเครื่องเล่น เป็นต้น

CCTV DLP (Digital Light Processing)

DLP (Digital Light Processing)

เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Texas Instruments ซึ่งมีการทำงานที่แตกต่างไปจาก lcd แทนที่จะใช้แผ่นกระจก lcd ระบบ dlp ใช้ chip ที่ทำจากกระจกเล็กๆ จำนวนมากในการสะท้อนแสง กระจก แต่ละแผ่นเปรียบเสมือน pixel หนึ่ง pixel แสงจากหลอดภาพของโปรเจคเตอร์จะถูกส่งไปที่ผิวหน้าของ chip dlp กระจกเล็กๆ จะเปลี่ยนทิศทางไปมาเพื่อส่องแสงไปที่เลนส์และส่งแสงที่ไม่ต้องการไปที่ตัว ดูดซับแสง ใน dlp โปรเจคเตอร์ระดับสูงได้มีการใช้ chip dlp ถึงสาม chip สำหรับสี แดง เขียว น้ำเงิน อย่างไรก็ดีโปรเจคเตอร์ที่มีราคาไม่สูงส่วนใหญ่มีเพียง chip เดียว ในการกำหนดสีจะใช้วงล้อที่ประกอบขึ้น จากสีแดง เขียว น้ำเงิน และบางทีอาจใช้สีขาว สีเขียวแก่และสีเหลืองด้วย วงล้อสีนี้จะหมุนอยู่ระหว่าง หลอดภาพกับ dlp chip เพื่สร้างเป็นสีต่างๆ ส่งไปที่ chip กระจกเล็กๆ บน chip จะคอยสะท้อน แสงสีต่างไปที่เลนส์ทำไห้เกิดเป็นภาพขึ้นมา

องค์ประกอบของ Projector

เปรียบเทียบการทำงาน

ทั้งสองเทคโนโลยีได้ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมา ความแตกต่างของระบบทั้งสอง ลดน้อยลงมาก แต่สิ่งที่ยังพูดถึงกันบ่อยๆ ก็คือ

- LCD นั้นให้ภาพที่สวยงามมีสีสันที่เป็นธรรมชาติเหมาะที่จะใช้งานร่วมกับเครื่องบันทึกภาพที่มาจาก กล้องวงจรปิดมากกว่า DLP ที่เป็นเช่นนี้เนื่องมาจาก dlp chip เดียวถูกสร้างมาสำหรับตลาด Presentation สีขาวถูกเพิ่มเข้าไปในวงล้อสีทำให้ภาพสว่างขึ้นก็จริง แต่ก็ ทำให้สีผิดเพี้ยนไปด้วย ภาพที่ได้จาก DLP จึงไม่ค่อยอิ่มและสั่นซึ่งจะไม่ค่อยมีผลในการแสดงข้อมูล แต่เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็น พิเศษถ้าจะใช้โปรเจคเตอร์สำหรับสัญญาณภาพที่มีลายละเอียดมากและเพื่อ ชดเชยข้อบกพร่องในเรื่อง สีที่ไม่เป็นธรรมชาติและเพื่อปรับปรุงการแสดงสีให้ถูกต้องโปรเจคเตอร์ที่ถูกผลิต มาสำหรับ home theater และระบบวีดีโอคุณภาพสูงจะใช้วงล้อสีที่มีหกสี (six-segment) ซึ่งประกอบ ด้วยสีแดง เขียว น้ำเงิน สองชุดโดยได้ตัดสีขาวออกไป บางวงล้ออาจมีถึงเจ็ดหรือแปดสีด้วยวงล้อสี นี้ช่วยเพิ่มความ ถูกต้องให้กับการแสดงสี

- ความแตกต่างอีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ความคมชัดในการแสดงข้อมูล LCD สามารถให้ภาพได้ คมชัดกว่า DLP ในทุกๆ resolution สังเกตได้จากการฉายภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีลายละเอียดของ ข้อมูลที่เป็นลายเส้น อย่างไรก็ดีไม่มีความแตกต่างที่มองเห็นได้ชัดในการแสดงภาพวีดีโอ ซึ่งก็ไม่ได้ หมายความว่า DLP จะแสดง ภาพที่เป็นข้อมูลและลายเส้นไม่ได้เรื่อง DLP สามารถแสดงผลออกมา ได้ชัดดีทีเดียวเพียงแต่เมื่อนำ DLP และ LCD ที่มี resolution เท่ากันมาวางฉายคู่กัน จากการเปรียบเทียบ แล้วดูเหมือนว่า LCD จะให้ความ คมชัดมากกว่า

- LCD นั้นมีประสิทธิภาพในการให้แสงสว่างที่ดีเมื่อแสดงภาพจากกล้องวงจรปิด LCD สามารถ ผลิตแสงที่มีค่า ANSI lumens ได้มากกว่า DLP ด้วยหลอดภาพที่กำลังไฟฟ้า (watt lamp) เท่าๆ กัน มีโปรเจคเตอร์ จำนวนมาก ที่ถูกผลิตออกมาด้วยค่า 3000 – 6000 lumens ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นโปรเจคเตอร์ในระบบ LCD ดังนั้น LCD จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเมื่อต้องการความสว่างมากๆ

ว่าด้วยเรื่อง contrast ระบบ LCD นั้นยังล้าหลังและเป็นรอง DLP ในเรื่องนี้แต่ทั้งสอง เทคโนโลยี ก็ยังมีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง เมื่อก่อน LCD โปรเจคเตอร์นั้นมีค่า contrast ที่ 400:1 ซึ่งต่ำกว่า DLP อยู่เกือบเท่าตัว ปัจจุบันนี้ทั้งสองเทคโนโลยีได้เพิ่มค่า contrast จนสูงขึ้นมาก DLP โปรเจคเตอร์ ส่วนมากมีค่า contrast อย่างต่ำอยู่ที่ 2000 :1 และสำหรับรุ่นพิเศษสำหรับ home theater มีค่า contrast ถึง 5000:1 ส่วนทาง LCD ก็ได้เพิ่มค่า contrast ให้มากขึ้นเช่นเดียวกัน LCD โปรเจคเตอร์มีค่า contrast ที่ 1000:1 ขึ้นไป บางรุ่นมีค่า contrast สูงถึง 6000:1 ทีเดียว

ลักษณะของ Projector

DLP กับปัญหา Rainbow effect

เมื่อมีการพูดถึงข้อด้อยของ DLP ที่เกิดมาจากการใช้วงล้อสีในการสร้างภาพเป็นไปได้ว่าการทำงาน ลักษณะนี้ทำให้เกิด “ rainbow effect ” เนื่องจากขณะที่วงล้อสีถูกทำให้หมุนเพื่อทำให้เกิดภาพอย่าง ต่อเนื่องอย่างรวดเร็วนั้น ตาของเรามีความไวพอที่จะจับความเปลี่ยนแปลงได้ทัน ทำให้เราเห็นแสงลักษณะ เหมือนสีรุ้งสะท้อนออกมาจากภาพ แต่ก็มีบางคนเท่านั้นที่จะเห็นความผิดปรกตินี้ได้ ส่วน LCD โปรเจคเตอร์ นั้นมีวิธีการสร้างภาพด้วยสีที่แน่นอนโดยการสร้างสีจากสีแดง เขียว น้ำเงิน ไปออกเป็นภาพในช่วงเวลา เดียวกับผู้ที่ชมภาพจาก LCD โปรเจคเตอร์จึงไม่เห็นความผิดปรกตินี้เลย

Texas Instruments ได้ทำการวิเคราะห์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า แต่เดิมในยุคแรกของการผลิตนั้น DLP โปรเจคเตอร์ถูกผลิตขึ้นโดยมีการใช้วงล้อสีซึ่งหมุนด้วยความเร็ว 60 รอบต่อวินาที (60 Hz) ซึ่งจะเท่ากับ 3600 รอบต่อนาทีโดยเรียกว่า 1x ในระหว่างได้มีการออกวางจำหน่าย DLP โปรเจคเตอร์ในช่วงแรก นี้ก็ได้มีผู้พบเห็นความผิดปรกตินี้บ้างแล้ว ต่อมาในยุคที่สอง วงล้อสีได้ถูกพัฒนาความเร็วขึ้นเป็น 2x ซึ่งจะเท่ากับ 120 Hz คือวงล้อสีจะหมุน 7200 รอบต่อนาที การเพิ่มความเร็วขึ้นเป็นสองเท่านี้ทำให้ คนส่วนใหญ่เห็นความผิดปรกติของ ภาพน้อยลง

การเลือกซือโปรเจคเตอร์ Projector

ปัจจุบันนี้ home theater DLP โปรเจคเตอร์ถูกผลิตขึ้นโดยมีวงล้อสีที่มีถึงหกสี (six-segment) ซึ่งมีสีแดง เขียว น้ำเงิน สองชุด วงล้อสีนี้หมุน 120 Hz ซึ่งเท่ากับ 7200 รอบต่อนาที และเนื่องจาก สีที่เพิ่มเป็นสองชุดในหนึ่งรอบนี้เองจึงถูกเรียกว่ามีความเร็วเท่ากับ 4x ทั้งๆ ที่ความเร็วรอบยังเท่าเดิม เหตุผล ใหญ่ที่ต้องใช้วงล้อที่มีหกสีและความเร็วรอบที่ 4x ก็เพื่อแก้ปัญหา “rainbow effect” นั่นเอง

LCD โปรเจคเตอร์แสดงภาพที่ซีดและจางลงเรื่อยๆ เมื่อใช้งานไปสักระยะเวลาหนึ่งโดยเฉพาะกับแผ่น LCD สีน้ำเงิน ซึ่งก็มีผลในการจัด balance ของสีทำให้ภาพมีสีผิดเพี้ยนไปและค่า contrast ก็ตกลงด้วย แต่ก็ไม่ต้องตกใจกลัวจนไม่กล้าใช้ LCD เนื่องจากการจะเกิดกรณีเช่นนี้ได้คงต้องใช้เวลานานพอสมควร ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาเป็นปีๆ ทีเดียว

ทั้ง DLP และ LCD ต่างก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอเพื่อความ พึงพอใจของผู้บริโภค ผู้ผลิตโปรเจคเตอร์ต่างก็ได้ทำการแก้ไขข้อบกพร่องของตนเองให้ดีขึ้นและปรับ สิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก อย่างไรก็ดีสำหรับสถานที่ที่ใหญ่มากต้องการโปรเจคเตอร์ที่มีความสว่างมาก LCD โปรเจคเตอร์ยังเป็นผู้นำในด้านนี้อยู่ ในการใช้งานกับ home theater DLP โปรเจคเตอร์ ยังนำหน้าอยู่เสมอในเรื่องสี contrast และคุณภาพของภาพซึ่งทำให้ผู้ที่ใช้ระบบ home theater ชื่นชอบอยู่เสมอ แต่ทุกวันนี้ช่องว่างระหว่างการเป็นผู้นำและผู้ตามของทั้งสองเทคโนโลยีนั้นลดน้อยลงทุกที ทั้ง DLP และ LCD ต่างก็มีความสามารถให้ภาพที่มีคุณภาพระดับสูงสำหรับ home theater ได้อย่าง สมบูรณ์แบบทีเดียว

DLP หรือ LCD เทคโนโลยีแบบใดจะดีกว่ากันนั้นคงจะต้องขึ้นอยู่กับบุคคลแต่ละคนซึ่งจะเป็น ผู้เลือกว่าเทคโนโลยีแบบใดจะดีที่สุดสำหรับบุคคลนั้น แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องคำนึงถึงการใช้งานด้วย เช่น ถ้าใช้งานกับกล้องวงจรปิด ก็ควรเลือกให้เหมาะสม

 

สนใจติดตั้งกล้องวงจรปิดหรือต้องการคำปรึกษาเรื่องกล้องวงจรปิด เราพร้อมที่จะให้คำปรึกษาเรื่องกล้องวงจรปิด กับลูกค้าทุกท่าน สามารถติดต่อเราได้ที่ กล้องวงจรปิดนครปฐม โทร. 081-700-4715,089-203-1737 หรือ 034-306-500 www.กล้องวงจรปิดนครปฐม.com

ติดต่อฝ่ายขาย

02-8883507-8, 081-700-4715
LINE ID: @cctvbangkok.com

^ ขึ้นด้านบน

CCTVBANGKOK | MEDIA SEARCH CO.,LTD. | กล้องวงจรปิดสมุทรสงคราม | กล้องวงจรปิดนนทบุรี | เกี่ยวกับเรา | แผนผังเว็บไซด์ | ทะเบียน ภ.พ. 20 |