บ๊อชเดินหน้าโชว์นวัตกรรม CCTV อัจฉริยะ

บ๊อชโชว์นวัตกรรม CCTV อัจฉริยะ เผยโดดเด่นด้วยระบบวิเคราะห์เหตุน่าสงสัย และให้สัญญาณ ภาพ ที่คมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมประสิทธิภาพในการจดจำใบหน้าและยังมีระบบแจ้งเตือน อัตโนมัติ ผ่านอีเมล์ หรือ SMS ได้

นายมานพ หอมสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัย บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จำกัด เปิดเผยถึงคุณสมบัติพิเศษ และความโดดเด่นของโทรทัศน์วงจรปิดและอุปกรณ์เชื่อมระบบ ของบ๊อชว่า บ๊อชเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย ระบบโทรทัศน์วงจรปิด (Bosch CCTV Systems) ที่มีสินค้า และอุปกรณ์กล้องวงจรปิดครบทั้งระบบ สามารถเปลี่ยนชุดอุปกรณ์กล้อง (หากถูกทำลาย)ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องถอดออกทั้งชุด และไม่ต้องเดินสายควบคุมใหม่ และที่สำคัญอุปกรณ์กล้องวงจรปิดของบ๊อช ยังสามารถรองรับการขยายและพัฒนาเทคโนโลยี่ใหม่ ๆ ในอนาคตได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ชุดใหม่ เพียงนำ Firmware ใหม่ไป Upgrade กล้องวงจรปิดเดิมได้เลย

นอกจากนี้ระบบกล้องวงจรปิดดังกล่าวถือเป็นนวัตกรรมล่าสุดของบ๊อช ซึ่งทำงานภายใต้ระบบ การวิเคราะห์สัญญาณภาพและแจ้งเตือนอัตโนมัติ เรียกว่าระบบ Video Content Analysis (VCA) หรือ ระบบโทรทัศน์วงจรปิดอัจฉริยะ ที่ไม่เพียงแค่ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้กับผู้ควบคุมระบบเท่านั้น แต่ยัง สามารถทำหน้าที่เตือนภัยล่วงหน้าให้กับผู้ควบคุมระบบเมื่อเกิดเหตุการณ์ต้องสงสัยขึ้น เพื่อให้ผู้คุมระบบ สามารถหาทางป้องกันเหตุเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายขึ้นได้ รวมถึงประสิทธิภาพการตรวจจับของ กล้องวงจรปิดแม้ในเวลากลางคืน ก็สามารถให้ภาพที่คมชัดได้

สำหรับความพิเศษและการทำงานของระบบ VCA จะมีโปรแกรมในการวิเคราะห์เหตุการณ์น่าสงสัย หรือ พฤติกรรมผิดปกติ เช่น กรณีที่มีกระเป๋าหรือกล่องวัตถุวางทิ้งไว้ในจุดอ่อนไหวนานเกินเวลาที่กำหนด, การส่งสัญญาณเตือนหากทรัพย์สินที่มีค่าสูงถูกเคลื่อนย้ายออกจากจุดที่เคยอยู่เดิม , การแจ้งเตือนหากมีผู้ บุกรุกเข้ามาในเขตหวงห้าม และหากใช้ร่วมกับกล้องโทรทัศน์วงจรปิดชนิดหมุนได้รอบตัว จะสามารถติดตาม ความเคลื่อนไหวของบุคคลต้องสงสัยได้โดยอัตโนมัติ แม้จะไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในห้องควบคุมพร้อม ทั้งแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเหตุการณ์ผ่านทาง E-mail หรือ SMS ก็ได้ และยังสามารถจดจำหน้า บุคคลต้องห้ามที่เข้ามาในบริเวณพื้นที่ที่กำหนด

นอกจากนี้ระบบดังกล่าวยังช่วยตรวจสอบและแจ้งเตือนพฤติกรรมผิดปกติ เช่น บุคคลต้องสงสัยกำลัง วิ่งในกลุ่มคนที่เดินด้วยความเร็วปกติ หรือบุคคลที่เดินสวนทาง (เช่น เดินเข้าที่ประตูทางออก) รถที่วิ่ง ย้อนศรหรือใช้ความเร็วเกินกว่าที่กำหนด การตรวจจับสิ่งผิดปกติอื่นๆ เช่น คนขับนำรถบัสไปจอด ในที่จอดรถแท็กซี่ หรือที่จอดรถผู้โดยสาร หรือในที่ห้ามจอด บุคคลต้องสงสัยยืน หรือวนเวียน (สังเกตการณ์) ในจุดอ่อนไหวนานจนน่าสงสัยพฤติกรรมที่ส่อเจตนาร้าย โดยวิเคราะห์จากทิศทาง การเคลื่อนไหวที่แตกต่างจากผู้โดยสารทั่วไป แจ้งเตือนเมื่อมีพฤติกรรมคุกคาม เช่น พ่นสีใส่กล้อง ขว้าง ทำลาย หรือเปลี่ยนทิศทางของกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และการวางวัตถุต้องสงสัยบนพื้นถนน หรือในจุดที่ ต้องมีการสัญจรเป็นประจำ เป็นต้น

"ในอนาคต คุณสมบัติเพิ่มเติมที่บ๊อชกำลังเร่งพัฒนาได้แก่ การกำหนดเงื่อนไขมากกว่า หนึ่งเงื่อนไขในพื้นที่เดียวกัน การจับพฤติกรรมผิดปกติที่มีลักษณะเฉพาะในกลุ่มคนขนาดใหญ่ การระบุ ตัวตนอัตโนมัติที่ชัดเจนมากขึ้น เช่น ชนิดของรถ สี ทะเบียนรถและข้อมูลประกอบอื่นๆ การนับจำนวนคน รถ เพื่อป้องกันเหตุไม่พึงประสงค์ เช่นคนร้ายซ่อนตัวในห้องน้ำ การระบุความสัมพันธ์ของวัตถุ เช่นผู้ชาย ใส่เสื้อสีแดงวางกระเป๋าสีดำ และจะแจ้งเตือนเมื่อเงื่อนไขผิดไปจากเดิม และ เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบ เพื่อรองรับการวิเคราะห์ภาพแบบ 3 มิติ ซึ่งจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ และน่าจะมีส่วนช่วย หน่วยงานต่าง ๆ ในด้านของการเตือนภัยล่วงหน้าได้เป็นอย่างดี" นายมานพกล่าว